Product Description: The Distressor - Classic Compression
Distressor ได้ชื่อมาจากความสามารถในการผสมผสาน Harmonic Distortion เข้ากับ Compressor Knee แบบคลาสสิก ตัวอย่างเช่น การตั้งค่า Distortion 2 จะสร้างฮาร์โมนิคลำดับที่ 2 ที่เพิ่มความอบอุ่นแบบอะนาล็อกคล้ายหลอดให้กับสัญญาณ ในขณะที่การตั้งค่า Distortion 3 จะจำลองความอิ่มตัวของเทป เหมาะสำหรับการใช้งานกับกีตาร์, เบส และกลอง
 
Digitally Controlled Compression
ต่างจาก Compressor/Limiter แบบอะนาล็อกทั่วไป Distressor เป็นอุปกรณ์เสียงที่ควบคุมแบบดิจิทัล ซึ่งรวมเอาฟีเจอร์หลายอย่างเข้าไว้ในหนึ่งเดียว ด้วยการใช้ตัวควบคุมดิจิทัลเพื่อสลับวงจรเข้าและออกที่แตกต่างกัน
 
Vintage Sound
Distressor ไม่เพียงแต่ให้การควบคุมที่หลากหลายและคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังมอบเสียงที่มีความวินเทจด้วยการออกแบบวงจรควบคุม Gain ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเสียงวินเทจได้กลายเป็นเทรนด์สำคัญในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลมักจะทำให้เสียง "จืดชืด" หรือ "เปราะบาง" ในขณะที่อุปกรณ์แบบอนาล็อก เช่น เทป, แผ่นเสียง และอุปกรณ์หลอดรุ่นเก่า มักจะเพิ่มสีสันให้กับเสียง ทำให้เสียงมีความน่าสนใจและเป็น "ดนตรี" มากยิ่งขึ้น
 
Included British Mode Upgrade
แนวคิด "British" มาจากการตั้งค่าใน Limiter UREI LN1176 แบบคลาสสิก ซึ่งออกแบบให้มี Ratio เพียง 4 ส่วน แต่ละ Ratio ทำงานโดยการเลือกปุ่มใดปุ่มหนึ่งจากสี่ปุ่ม ในช่วงปี 1980 วิศวกรบันทึกเสียงค้นพบว่าการกดปุ่มทั้งสี่ปุ่มให้ค้างอยู่ใน "in" จะทำให้ได้เสียงที่ดุดันมาก มีลักษณะคล้ายกับอัตราส่วน 20:1 ด้วย Knee ที่ไม่ธรรมดา และ Shape ของ Envelope ใหม่ ซึ่งถูกเรียกว่า "British Mode" หรือ "All Buttons In"
 
Distressor มาพร้อมกับลักษณะ "Aggressive" ไม่เพียงแต่ใน Ratio British แบบใหม่ (1:1) แต่ยังรวมถึง Ratio ทั้งหมดที่มีการติดตั้งสวิตช์แยกต่างหากเพื่อเปิดใช้งานได้ใน Ratio แบบใดก็ได้ อย่างไรก็ตาม ควรตั้งค่า Attack ที่ต่ำกว่า 3 หรือ 4 เพื่อรักษา Character ของ LN1176 ถ้าตั้ง Attack เกิน 3 จะทำให้มี grunge (distortion) และ THD เพิ่มขึ้น
 
Empirical Labs EL8-XS Distressor with British Mode and Image Link - Stereo Pair Features:
"All buttons in" British Mode switch LED
Frequency response: 2Hz to 160kHz ในโหมด Clean Audio (+0, -3 dB) และ Response จะถูกปรับใน distortion modes (Dist 2, Dist 3)
Dynamic range: 110 dB from max. output to min. output in 1:1 mode
Distortion ranges: ระหว่าง .02% และ 20% ขึ้นอยู่กับ distortion mode และ release times ที่ทำการตั้งค่าไว้
Input impedance: 20K ohms
Output impedance: < 75 ohms
Attack range: 50 µS - 50 mS
Release range: 0.05 sec to 3.5 seconds ในโหมดปกติและเพิ่มได้มากถึง 20 วินาทีใน 10:1 opto mode
Specifications:
Frequency Response: 2 Hz to 160 kHz in clean audio mode (+0, -3 dB); Response shaped in distortion modes (Dist 2, Dist 3)
Dynamic Range: 110 dB from max. output to min. output in 1:1 mode; Greater than 100 dB signal to noise in Dist 3 mode
Distortion: Ranges between .02% and 20% depending on distortion mode and release times set on front panel
I/O: DC Coupled input and outputs
Time Constants: Attack range 50 µs – 50 mS; Release range .05 sec to 3.5 seconds in normal modes and up to 20 seconds in 10:1 opto mode; Time constants dependent on ratio
Power Consumption: 15 Watts Max
Metal Chassis: Single height 1.75″ high, 10″ deep, 19″ wide
Tech Specs:
Number of Channels: 2
Controls: Ratio (Button), Input, Attack, Release, Output
Ratio: 1:1 to 20:1 (And "Nuke")
Frequency Response: 2 Hz - 160 kHz (-3 dB)
Inputs: 2 x XLR, 2 x 1/4", 2 x 1/4" (Stereo Link)
Outputs: 2 x XLR, 2 x 1/4", 2 x 1/4" (Stereo Link)
Rack Spaces: 1U
Height: 3.5"
Depth: 10"
Width: 19"
Manufacturer Part Number: EL8X-S Stereo Pair