Dan Malsch มิกซ์อัลบั้มล่าสุดของวง Ghost ที่มีชื่อว่า "Skeletá" ด้วย Solid State Logic Duality Pro-Station
- Vintage Studio
- 24 ก.ค.
- ยาว 2 นาที
Skeletá อัลบั้มสตูดิโอลำดับที่หกของวงร็อกสัญชาติสวีเดน Ghost เปิดตัวที่อันดับ 1 บนชาร์ต Billboard 200 ทันทีที่วางจำหน่ายช่วงปลายเดือนเมษายน นับเป็นครั้งแรกของวงที่สามารถขึ้นถึงอันดับหนึ่งได้ และยังเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีที่มีวงร็อกสายหนักสามารถขึ้นครองชาร์ตอัลบั้มในสหรัฐฯ ได้
อัลบั้มความยาว 10 เพลงนี้ได้ Dan Malsch ทำหน้าที่เป็น Mixing Engineer ที่ห้อง IMRSV Music ในสต็อกโฮล์ม โดยใช้ Solid State Logic Duality Pro-Station แบบ 48 Channel เป็นหัวใจหลักในการทำงาน Malsch ยังเคยรับหน้าที่มิกซ์อัลบั้มก่อนหน้านี้ของ Ghost และยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการมิกซ์งานของวงทั้งหมดในรูปแบบ Dolby Atmos อีกด้วย
Malsch เคยเข้าชิงรางวัลแกรมมี่หลายครั้ง ซึ่งเคยร่วมงานกับศิลปินชื่อดังอย่าง Avenged Sevenfold, Gojira และ Bowling for Soup มาแล้วนั้น อีกทั้งยังมีสตูดิโอของตนเองชื่อว่า Soundmine Recording ซึ่งตั้งอยู่ในเทือกเขา Pocono รัฐเพนซิลเวเนีย ภายในห้อง A ของสตูดิโอนั้นใช้คอนโซลวินเทจ SSL 4000 E/G+ อีกด้วย
แม้เขาจะไม่เคยใช้ Duality มาก่อนเลย แต่เขาก็ใช้เวลาสามสัปดาห์ในการมิกซ์อัลบั้ม Skeletá ด้วยคอนโซลที่ IMRSV สตูดิโอเก่าของ EMI ที่สร้างขึ้นในปี 1969
Malsch กล่าวถึงประสบการณ์นี้ว่า “Duality เป็นคอนโซลที่ให้เสียงสะอาดมาก แต่ก็มีความอบอุ่นแบบฮาร์มอนิกที่สามารถเปิดใช้ได้ อีกทั้งยังไม่มีอะไรที่รวดเร็วเท่ากับการทำงานบน Duality มันเป็นความฝันและความสุขที่ได้ทำงานกับมันจริงๆ”
ยกระดับความสร้างสรรค์ด้วยระบบ Session Recall
การทำงานที่สตอกโฮล์มทำให้ Malsch ได้ใกล้ชิดกับนักร้องนำและนักแต่งเพลงหลักของวง Ghost อย่าง Tobias Forge มากยิ่งขึ้น โดย Forge ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของวง มักจะแวะเข้ามาที่ IMRSV เป็นระยะๆ เพื่อฟังและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมิกซ์
Malsch เคยทำหน้าที่เป็น Mixing Engineer ให้กับอัลบั้มก่อนหน้าของ Ghost ในปี 2022 ชื่อ Impera โดยร่วมงานกับมิกเซอร์ชื่อดัง Andy Wallace ที่สตูดิโอ Soundmine การได้มามิกซ์อัลบั้ม Skeletá ที่ IMRSV ครั้งนี้ ทำให้เขามีโอกาสเปรียบเทียบคอนโซล Duality กับ SL4000 ที่ Soundmine ซึ่งติดตั้งโมดูล EQ แบบ “black” เป็นหลัก พร้อมกับ “orange” บาง Channel
เขาเล่าว่า “อัลบั้มใหม่นี้ต้องการเสียงที่ประณีตมากขึ้น และผมพบว่าวิธีการทำงานกับ Duality ที่ผมชอบคือการให้เสียงเปิด โปร่ง ชัดเจน และมีพลัง EQ ของ Duality จะมีความแม่นยำมากกว่า ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผมชอบมาก ผมคิดว่าอัลบั้ม Skeletá นี้ได้ประโยชน์จากเสียงของ Duality อย่างมากจริงๆ”
คอมเพรสเซอร์ของ SSL และชุดปลั๊กอิน
ในอัลบั้มใหม่ของ Ghost ซึ่งโดดเด่นด้วยโปรดักชัน ซาวด์ และการเขียนเพลงที่ชวนให้นึกถึงดนตรีฮาร์ดร็อกยุค 80s และ 90s ที่ทั้งเนี้ยบและขัดเกลา สอดรับกับรสนิยมของ Dan Malsch ได้อย่างลงตัว เขาอธิบายว่า “ผมเป็นมิกเซอร์ที่ชอบความสะอาดมาก ๆ ถ้าแทร็คไหนมีอยู่ มันก็ควรจะได้ยินชัด ดังนั้นคุณต้องสร้างพื้นที่ให้ทุกอย่างมีที่ของตัวเอง”
“ผมใช้ของไม่เยอะเลย ใช้รีเวิร์บแบบเดิม ๆ ซ้ำไปมา ผมทำงานบนมิกซ์บอร์ดเยอะมาก มันไม่ใช่แค่มิกเซอร์สำหรับรวมซาวด์เฉยๆ นะ ถ้าคุณดูดีๆ แต่ละแชนเนลจะมี EQ และหลายแชนเนลก็จะใส่คอมเพรสเซอร์เข้าไปด้วย ผมชอบ SSL Channel Compression มากเพราะมันช่วยปรับความเรียบเนียนและเพิ่มมิติให้ซาวด์ได้ดีมาก”
เขาเสริมอีกว่า “ถ้าผมไม่ได้ใช้คอมเพรสเซอร์บนคอนโซล ผมก็จะใช้เป็นปลั๊กอิน SSL แทน เพราะในห้อง Atmos ของผมไม่มีคอนโซลเลย ผมเลยใช้ปลั๊กอิน SSL 4K channel strip ซึ่งผมใช้ไปทั่วทั้งโปรเจกต์ ผมเป็นคนทำงานแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เพราะผมรู้ดีว่าผมต้องการอะไร และจะได้มันจากอุปกรณ์ของ SSL อย่างไร”
ในห้อง A ของ Soundmine เขาบอกว่า “ผมมีคอนโทรลเลอร์ UF8 สองตัว (รวม 16 แชนเนล) และ UF1 DAW Control Centre อีกหนึ่งตัว ผมมักจะมิกซ์เสียงสเตอริโอในห้อง Atmos ด้วย แต่เพราะไม่มีคอนโซล ผมต้องซื้อคอนโทรลเลอร์อีกชุด เพื่อให้ทำงานได้เหมือนกับ workflow ที่ผมคุ้นเคย”
เปิดมิติมิกซ์ด้วย FUSION และ THE BUS+
อุปกรณ์จาก SSL ที่ Dan Malsch มีในห้อง Soundmine ยังรวมถึงเอาต์บอร์ดอีกหลายตัว เขากล่าวว่า “ผมมี Fusion ซึ่งผมใช้กับมิกซ์บัส ผมชอบ Fusion มาก โดยเฉพาะเรื่องความกว้างของสเตอริโอ ผมไม่ค่อยได้ใช้ฟีเจอร์ Vintage Drive เท่าไหร่ คอนโซลของผมก็ให้ความวินเทจพออยู่แล้ว!”
“ผมยังมีโมดูล UltraViolet Stereo EQ แบบ 500 Series ซึ่งบางครั้งผมก็เอามาใส่ที่มิกซ์บัส เพราะชอบเสียงย่านสูงของมันมาก” “เมื่อประมาณปีครึ่งที่แล้ว ผมเปลี่ยนจากคอมเพรสเซอร์ 4K Master Bus มาเป็น THE BUS+ แทน ถ้าผมทำเพลงป๊อปที่ต้องการความใส ผมจะปิดปุ่ม 4K บน THE BUS+ หรือไม่ก็เปิดโหมด LOW THD เพื่อให้เสียงฟังดูเปิดและคงความหนาในย่านโลว์ไว้มากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วผมคุ้นชินกับซาวด์คอมเพรสเซอร์แบบ 4K มาก ๆ มันคือสิ่งที่ผมโตมากับมัน”
“ผมยังมีคอมเพรสเซอร์ Bus Compressor แบบแร็คของ SSL ตัวเก่าอยู่ด้วยนะ แต่ THE BUS+ นี่แหละ ชนะทุกตัวไปเลย”
แม้ว่า Malsch จะพึ่งพาคอนโซล SL4000 พร้อมเอาต์บอร์ดและปลั๊กอินรุ่น E Series อย่างหนักในห้อง Soundmine แต่หลังจากได้ใช้งาน Duality ที่สตอกโฮล์ม เขาก็เริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่“เรากำลังคิดอย่างจริงจังเลยว่าจะเอา Duality เข้ามาในห้อง A” เขากล่าว.
ขอบคุณคุณข้อมูลจาก :
ความคิดเห็น